| 
	กลายเป็นข่าวใหญ่ เมื่ออิสราเอลถูกกลุ่มปาเลสไตน์ติดอาวุธหรือฮามาสโจมตีแบบสายฟ้าแลบ อีกทั้ง ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก WTI พุ่งขึ้น 4% ตอบรับเหตุรุนแรงนี้ มาอยู่ที่ราว 86 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันจันทร์ (9 ต.ค. 2566) และปรับตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 85.5 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันอังคาร (10 ต.ค.) 
	แม้ตอนนี้อิสราเอลจะปิดล้อมฉนวนกาซาได้แล้ว แต่ความขัดแย้งยังคงเป็นฝุ่นตลบ ไม่จางหายโดยง่าย “ฮิซบอลเลาะห์” ซึ่งเป็นกลุ่มมุสลิมชีอะห์ติดอาวุธในเลบานอน ใช้โอกาสชุลมุนในอิสราเอลเข้าโจมตีทางตอนเหนือของอิสราเอล จนอิสราเอลเร่งระดมพลทหารสำรองอีกกว่า 3 แสนนาย เพื่อรับศึกรอบประเทศ 
	ถ้าความขัดแย้งบานปลายไปมากกว่านี้ คำถามสำคัญคือ เศรษฐกิจไทยผูกติดกับอิสราเอลมากเพียงใด ไทยนำเข้าสินค้าอะไรจากอิสราเอลมากที่สุด ขณะเดียวกัน ไทยส่งออกอะไรไปอิสราเอลมากที่สุด เพื่อจะได้เตรียมรับมือผลกระทบในสินค้าเหล่านั้น  
	ไทยค้าขายกับอิสราเอลมากเพียงใด 
	ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์โดยร่วมมือกับกรมศุลกากร ระบุว่า ปี 2566 ตั้งแต่เดือน ม.ค - ส.ค. ไทยมีมูลค่าการค้ากับอิสราเอล 29,288 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าส่งออก 18,562 ล้านบาท และเป็นมูลค่านำเข้า 10,726 ล้านบาท ซึ่งไทยได้เปรียบดุลการค้าอิสราเอล 7,836 ล้านบาท อีกทั้งอิสราเอลนับเป็นคู่ค้าอันดับที่ 40 ของไทย 
	ไทยส่งออกสินค้าอะไรให้อิสราเอลมากที่สุด 
	ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า สำหรับสินค้าไทยส่งออกอิสราเอล 10 อันดับแรก ของปี 2566 ช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. มีดังนี้ 
	1. รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 4,231.19 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.79%  
	2. อัญมณีและเครื่องประดับ 1,671.83 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9.01% 
	3. อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 1,600.17 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8.62% 
	4. ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 931.58 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.02% 
	5. ข้าว 906.11 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.88% 
	6. เม็ดพลาสติก 703.95 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.79% 
	7. แผงวงจรไฟฟ้า 550.29 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.96% 
	8. เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล 535.19 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.88% 
	9. ผลิตภัณฑ์ยาง 489.23 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.64% 
	10. เครื่องดื่ม 476.79 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.57% |