แจก 5 สูตรขนมปังเพื่อสุขภาพ ทำง่ายอร่อยด้วย

1. ขนมปังเมล็ดเจียงาขาว
 
 
ขนมปังสูตรสุขภาพสูตรจาก คุณ Little Pastry Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมใครจะไปรู้ว่า เมล็ดเจีย ธัญพืชประโยชน์แน่นจะจับมาทำขนมปังสูตรสุขภาพได้ด้วย สูตรนี้พิเศษที่ใส่งาขาวคั่ว อยากรู้ว่าฟินแค่ไหนมาทำตามกันเถอะ
 
ส่วนผสม ขนมปังเมล็ดเจีย
 
  • แป้งขนมปัง 350 กรัม
  • น้ำตาลทราย 25 กรัม
  • ยีสต์ 1+1/4 ช้อนชา
  • เกลือ 1 กรัม
  • น้ำ 205 กรัม
  • น้ำมันพืช 50 กรัม
  • งาขาวคั่ว 35 กรัม
  • เมล็ดเจีย 10 กรัม
วิธีทำขนมปังเมล็ดเจีย
     1. นำแป้ง น้ำตาลทราย ยีสต์ และเกลือใส่ในชามผสม คนให้เข้ากัน
     2. นำน้ำอุ่นกับน้ำมันพืชใส่ในชามผสม คนให้เข้ากัน และนวดแป้งประมาณ 30 นาที จนแป้งเนื้อเนียนและสามารถยืดเป็นฟิล์มได้
     3. ใส่เมล็ดเจียกับงาคั่ว แล้วนวดให้เข้ากันประมาณ 2 นาที
     4. นำแป้งขนมปังมารวบให้แป้งเป็นกลม ๆ แล้วใส่ในชามอ่างที่สะอาด พักให้แป้งฟูขึ้นประมาณ 50 นาที หรือจนแป้งจะฟูขึ้นเป็น 2 เท่า คลึงแป้งโดยไล่ลมออกแล้วคลึงให้เป็นก้อนกลม ๆ พักแป้งไว้อีก 10 นาที
     5. นำแป้งมารีดด้วยไม้คลึงแล้วทำโรล นำแป้งไปใส่พิมพ์ขนมปังขนาด 19x9 เซนติเมตร ที่มีกระดาษรองอบไว้ คลุมด้วยพลาสติกหรือเอาผ้าชุบน้ำหมาด ๆ คลุมไว้และพักแป้งจนขึ้นฟูเป็น 2 เท่าใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที นำแป้งขนมปังมาโรยก่อนอบ
     6. นำขนมปังเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส อบประมาณ 30 นาที หรือจนขนมปังสุก นำออกมาพักไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วเสิร์ฟได้
 
 
2. ขนมปังบันสูตรโฮลวีต
 
 
สูตรจาก คุณ Little Pastry Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ขนมปังแผ่นสี่เหลี่ยมก็ทำบ่อยแล้ว ลองเปลี่ยนมาทำขนมปังบันบ้างดีไหม สูตรนี้ใช้แป้งโฮลวีต เติมนมสด นมผง และเนย เพิ่มรสชาติหวานจากน้ำตาลทรายแดง
 
ส่วนผสม ขนมปังโฮลวีต (ประมาณ 12 ลูกเล็ก)
 
  • แป้งขนมปัง 200 กรัม
  • แป้งโฮลวีต 70 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 15 กรัม
  • นมผง 1 ช้อนโต๊ะ
  • ยีสต์ 3/4 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำอุ่น (อุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส) 100 กรัม
  • นม 50 กรัม
  • น้ำมันมะกอก 10 กรัม
  • เนย (อุณหภูมิห้อง) 10 กรัม
 
วิธีทำขนมปังโฮลวีต
 
     1. นำแป้งขนมปัง แป้งโฮลวีต น้ำตาลทรายแดง นมผง ยีสต์ และเกลือมาใส่ในชามผสม
     2. ผสมน้ำอุ่น นม และน้ำมันมะกอกในถ้วย เสร็จแล้วใส่ลงในส่วนของแป้ง พอผสมให้เข้ากันเรียบร้อย ก็เอาแป้งมานวดบนโต๊ะสะอาด
     3. พอนวดแป้งได้ประมาณ 10 นาที นำเนยมาใส่ในแป้งแล้วนวดต่อไป อีกประมาณ 20-30 นาที หรือจนแป้งขนมปังเนียนและขึ้นฟิล์ม
     4. นำแป้งขนมปังมารวบให้แป้งเป็นทรงกลม คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร แล้วพักไว้ให้ฟูขึ้นประมาณ 40-50 นาที หรือจนแป้งจะฟูขึ้นเป็น 2 เท่า
     5. ขึ้นรูปขนมปัง โดยแบ่งเป็นก้อนเล็ก ๆ 12 ลูกเท่า ๆ กัน ไล่ลมออกแล้วคลึงให้เป็นก้อนกลม ๆ นำไปใส่ในถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบ
     6. คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารหรือเอาผ้าชุบน้ำหมาด ๆ คลุมไว้ และพักแป้งจนขึ้นฟูเป็น 2 เท่า ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที นำแป้งมาโรยก่อนอบ
     7. นำขนมปังเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส อบประมาณ 15 นาที นำออกมาพักให้คลายร้อน จัดเสิร์ฟ
 
 
3. ขนมปังกล้วยน้ำว้าโฮลวีต
 
 
ขนมปังสูตรสุขภาพ สูตรจาก คุณ LittleFilmz สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สำหรับคนรักสุขภาพที่อยากลองทำขนมปังสุขภาพสุดแนว ขอนำเสนอขนมปังกล้วยน้ำว้าโฮลวีต ใส่โยเกิร์ต น้ำผึ้ง และกลิ่นวานิลลา ใครจะเพิ่มธัญพืชก็ตามชอบเลยค่ะ
 
ส่วนผสม ของแห้ง
 
  • แป้งโฮลวีตเนื้อละเอียด 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา (ฟิล์มใช้เกลือทะเลนะคะ ถ้าเกลือไอโอดีนอาจจะต้องลดลงหน่อย)
 
ส่วนผสม ของเหลว
 
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • กล้วยน้ำว้าบด 250-300 กรัม
  • กรีกโยเกิร์ต 1/2 ถ้วย
  • น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
วิธีทำขนมปังกล้วยน้ำว้า
     1.วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์ขนมปัง ฉีดสเปรย์น้ำมันบาง ๆ ลงไป
     2. นำส่วนผสมของแห้ง ได้แก่ แป้งโฮลวีต เบกกิ้งโซดา ผงฟู และเกลือ ผสมให้เข้ากัน พักไว้ และนำส่วนผสมของเหลว ได้แก่ ไข่ไก่ กล้วยบด กรีกโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และกลิ่นวานิลลา (ส่วนนี้ฟิล์มจับใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้เลยค่ะ จัดการปั่นให้เข้ากัน) ผสมให้เข้ากัน      3. เทส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมของแห้ง ตะล่อมให้เข้ากัน (อย่าคนนาน เดี๋ยวเนื้อเหนียวค่ะ)
     4. เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เอาเข้าเตาอบประมาณ 30-40 นาที เช็กความสุกด้วยไม้จิ้มฟันอีกทีเพื่อความชัวร์
     5. ถ้าสุกแล้วเอาออกจากเตา พักไว้สัก 10 นาที แซะออกมาพักต่อให้เย็นบนตะแกรงพักขนม แล้วค่อยจัดการสไลซ์โลด
 
 
4. ขนมปังโฮลวีต
 
 
ขนมปังสูตรสุขภาพ สูตรจาก คุณ จ๋อมแจ๋ม สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ถ้าอยากทำขนมปังโฮลวีตแจกคนพิเศษ ไปหาซื้อแป้งโฮลวีตกันเลยค่ะ สูตรนี้ใส่น้ำผึ้งและเกลือนิดหน่อย และไม่ใส่สารกันบูดอีกด้วย
 
ส่วนผสม ขนมปังโฮลวีต
 
  • แป้งโฮลวีต 3 ถ้วย
  • น้ำ 1+1/4 ถ้วย
  • ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 1/6 ถ้วย
  • น้ำมันมะกอก 1/6 ถ้วย
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
 
วิธีทำขนมปังโฮลวีต
 
     1. มาตวงแป้งกันก่อน ให้ใช้ช้อนเขี่ยแป้งให้ฟู ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ ตักลงถ้วยทีละช้อน โดยไม่เขย่าถ้วย หรือเคาะ ๆ ให้แป้งลงไป พอเต็มแล้วให้เอาด้ามช้อนปาดออก ตวงให้ได้ 3 ถ้วยตวงแล้วทิ้งไว้ก่อน
     2. ในถ้วยน้ำอุ่นให้ใส่ยีสต์ลงไป ย้ำว่าห้ามน้ำร้อน เดี๋ยวยีสต์ตายหมด
     3. แบ่งแป้งที่ตวงไว้ 1 ถ้วยแล้วใส่ลงไป คน ๆ แล้วพักให้ยีสต์ตื่น
     4. ใส่แป้งที่เหลือลงในโถ เติมเกลือ น้ำมัน และน้ำผึ้งลงไป คนผสมให้เข้ากัน
หมายเหตุ : ปกติถ้วยตวงจะไม่มี ถ้วย 1/6 ให้ใช้ 1/4 แต่ใส่ให้ต่ำกว่าถ้วยนิดหนึ่ง ไม่ต้องออกไปหาซื้อ
     5. หลังจากส่วนผสมยีสต์ฟูขึ้นแล้ว จับเทใส่ลงในส่วนผสมแป้ง แล้วก็ผสมให้เข้ากัน โดยใช้เครื่องตีหัวตะขอ หรือนวดหรือตีไปเรื่อย ๆ จนแป้งหายเหนียวและไม่ติดมือเวลาจับ เอาพลาสติกถนอมอาหารคลุมไว้หลวม ๆ แล้วพักไว้ในที่ร้อน ๆ ประมาณ 20 นาที
เคล็ดลับ : เปิดไมโครเวฟเปล่า ๆ ประมาณ 30 วินาที จากนั้นก็นำอ่างผสมแป้งใส่เข้าไปพักไว้ในนั้น ห้าม ! เปิดไมโครเวฟ
     6. เตรียมพิมพ์ โดยทาพิมพ์ด้วยน้ำมันมะกอก โรยแป้งลงไปแล้วเคาะพิมพ์ ถึงพิมพ์จะเป็นเคลือบกันติด (Non Stick) ก็ต้องทำ เพราะถ้าติดพิมพ์ขึ้นมาแล้วไม่คุ้มเลย
     7. หลังจากแป้งขึ้นเป็น 2 เท่าจากเดิมแล้ว ก็ถึงเวลาขึ้นรูป ถึงตอนนี้ใครอยากใส่ธัญพืชอะไร ก็ใส่ตามสบายเลย พับไปมาให้เข้ากันดี แล้วแผ่แป้งออกให้กว้างเท่ากับความยาวของพิมพ์ หลังจากนั้นก็ม้วนแป้งให้แน่น แล้วอย่าลืมใช้มือบี้ ๆ ตรงตะเข็บให้ปิดสนิทดี จากนั้นนำแป้งใส่พิมพ์ แล้วคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารพอหลวม แล้วเอากลับเข้าไปพักในไมโครเวฟประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
     8. พอใกล้ครบเวลาพักแป้ง ให้เปิดเตาอบรอไว้ที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง จากนั้นเอาเข้าอบประมาณ 45 นาที วิธีการเช็กว่าขนมปังสุกหรือยัง ให้ใช้ช้อนเคาะดู ถ้าเสียงกลวง ๆ แสดงว่าสุกแล้ว นำออกจากเตา แล้วนำออกจากพิมพ์ทันทีเลย ถ้าทิ้งไว้เดี๋ยวจะแฉะ พลิกหน้ากลับขึ้นมาแล้วพักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท
     9. พอขนมปังเย็นสนิทแล้วก็จัดการหั่น ในการหั่นขนมปังเราจะต้องใช้มีดฟันเลื่อย ไม่งั้นเนื้อขนมปังจะเละเทะ ขนมปังนี้ควรเก็บไว้ในตู้เย็น เพราะทำกันเอง ไม่ใส่สารกันบูด ถ้าทิ้งไว้ข้างนอกเดี๋ยวราขึ้น ใครกินคนเดียวก็แบ่งใส่ช่องแช่แข็งไว้ คืนก่อนที่จะกินก็แบ่งมาไว้ช่องธรรมดา เช้ามาก็กินได้แล้ว
 
 
5. แป้งตอร์ตีญ่าโฮลวีต
 
 
ขนมปังสูตรสุขภาพ สูตรจาก คุณจ๋อมแจ๋ม สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  และแล้วก็ได้เมนูอาหารเช้าแล้ว นั่นคือเมนูแป้งตอร์ตีญ่าโฮลวีต จับแผ่นแป้งไปจี่จนสุกแล้วใส่ไส้พวกผักและเนื้อสัตว์ตามชอบ แค่นี้ก็เรียบร้อย
 
ส่วนผสม แป้งตอร์ตีญ่าโฮลวีต
 
  • แป้งโฮลวีต 1+1/2 ถ้วย
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar) หรือ น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำร้อน 1/2 ถ้วย
หมายเหตุ : สูตรนี้แนะนำว่าให้หาซื้อแป้งโฮลวีตที่เนื้อละเอียด ไม่งั้นจะออกมาค่อนข้างแข็ง แต่ถ้าหาไม่ได้ลองใส่แป้งขาว (แป้งสาลี) เข้าไปแทนสัก 1/4 ถ้วย จะทำให้นุ่มขึ้น แต่ต้องแลกมาด้วยความไม่คลีนเล็กน้อย
 
 
วิธีทำแป้งตอร์ตีญ่าโฮลวีต
     1. ตวงแป้งใส่อ่างผสม เติมผงฟู คนผสมให้เข้ากัน ใส่น้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์ เทน้ำเข้าใส่ไปทีละนิด อย่าเททีเดียวหมด เพราะถ้าเปียกไปแล้วจะนำออกไม่ได้ ค่อย ๆ ใส่แล้วคนผสมไปเรื่อย ๆ อย่าให้เปียกเกินไป คนผสมไปเรื่อย ๆ โรยแป้งบนเขียงนิดหนึ่งแล้วนำแป้งลงไปนวดเลย ไม่ต้องนวดนาน แค่ให้พอเข้ากัน
     2. ปั้นเป็นลูกกลม ๆ เตรียมไว้ คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักแป้งทิ้งไว้ ประมาณ 8-24 ชั่วโมงเลย เป็นการหมักแป้ง ส่วนน้ำส้มสายชูที่ใส่ลงไปจะไปทำให้แป้งนุ่มและเหนียวขึ้น แนะนำว่าให้ทำตอนกลางคืน หรือตื่นมาทำแต่เช้า ใครทนไม่ไหวจริง ๆ ก็ลุยโลด แต่แป้งจะแข็งหน่อยแต่กินได้ พอพักได้ที่แล้ว นำแป้งออกมานวดแล้วใส่เกลือ หลังจากนั้นเอามาปั้นเป็นท่อนยาว ตัดแบ่งแป้งเป็น 6 ส่วน แต่ถ้าอยากได้แผ่นใหญ่ ลองแบ่งแป้งเป็น 5 ส่วนก็ได้
     3. วางแป้งบนพลาสติก วางทับด้วยพลาสติกอีกแผ่น แล้วกดแป้งให้เป็นแผ่น ใช้ไม้คลึงแป้ง หรือขวดคลึงแป้งให้เป็นแผ่น ๆ แต่อย่าบางมาก เพราะจะแข็ง ส่วนใครจะกินทีละแผ่น แนะนำว่า ให้คลึงแป้งเป็นแผ่น ๆ ซ้อนกันไว้ โดยคั่นแต่ละแผ่นด้วยพลาสติก แล้วใส่กล่องแช่แข็งไว้เลย เพราะถ้าทำให้สุก แล้วเก็บไว้แป้งจะแข็ง ทอดแล้วกินร้อน ๆ อร่อยกว่าเยอะ
     4. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟไม่ต้องแรงมาก จากนั้นใส่แผ่นแป้งลงกระทะเลย จี่แป้งทั้ง 2 ข้างแค่ให้พอสุก แล้วเร่งไฟแรงขึ้น จี่ทั้ง 2 ข้างอีกครั้ง จนสีเข้มขึ้นเล็กน้อย นำขึ้นจากเตาแล้วพรมน้ำทันที พรมทั้ง 2 ด้านตอนยังร้อน ๆ เพิ่มความชื้นนิดหนึ่ง ไม่งั้นแป้งจะกรอบ ม้วนไม่ได้ คราวนี้ใครอยากใส่เครื่องอะไรก็เชิญ แล้วม้วน ๆ พร้อมเสิร์ฟ

บทความอื่นๆ