โรคไข้หวัดใหญ่ ภัยร้ายใกล้ตัวที่ป้องกันได้

โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดา (Common Cold) แต่เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ซึ่งอาการมักจะรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างฉับพลันมากกว่าไข้หวัดทั่วไป และที่สำคัญคืออาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง

ต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร?

 

หลายคนมักสับสนระหว่างสองโรคนี้ จุดสังเกตง่ายๆ คือ:

  • ไข้หวัดใหญ่: มักเริ่มต้นด้วยอาการ ไข้สูงอย่างฉับพลัน (38 องศาเซลเซียสขึ้นไป), ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรุนแรง, ปวดศีรษะ และอ่อนเพลียอย่างมาก อาการไอและเจ็บคอจะตามมาทีหลัง

  • ไข้หวัดธรรมดา: อาการจะค่อยเป็นค่อยไป มักเริ่มจากอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จาม และเจ็บคอ ไข้จะต่ำๆ หรืออาจไม่มีไข้เลย และไม่ค่อยมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรุนแรง

 

อาการของไข้หวัดใหญ่

 

  • มีไข้สูง หนาวสั่น

  • ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่ออย่างรุนแรง

  • ปวดศีรษะ

  • อ่อนเพลีย หมดแรง

  • ไอแห้ง และเจ็บคอ

  • อาจมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หรือในเด็กอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียร่วมด้วย

 

การดูแลตัวเองเบื้องต้น (สำหรับผู้ที่อาการไม่รุนแรง)

 

หากสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่และอาการยังไม่หนักมาก การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้นครับ

  1. พักผ่อนให้มากที่สุด: การนอนหลับคือการฟื้นฟูร่างกายที่ดีที่สุดครับ

  2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ควรดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและช่วยให้เสมหะไม่เหนียวข้น

  3. รับประทานอาหารอ่อนๆ: เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม เพื่อให้ร่างกายย่อยง่ายและนำพลังงานไปใช้ต่อสู้กับเชื้อโรค

  4. ใช้ยาลดไข้: สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้และบรรเทาอาการปวดได้ แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด

  5. สังเกตอาการตัวเอง: หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรือมีอาการน่ากังวล ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

 

กลุ่มเสี่ยงและอาการที่ควรไปพบแพทย์ทันที

 

แม้คนส่วนใหญ่จะหายได้เอง แต่ไข้หวัดใหญ่ก็เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก (อายุน้อยกว่า 5 ปี), ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป), สตรีมีครรภ์, และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด, โรคหัวใจ, โรคปอด, โรคเบาหวาน

หากคุณหรือคนใกล้ชิดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนครับ:

  • หายใจลำบาก หายใจถี่ หรือเจ็บหน้าอก

  • มีอาการสับสนมึนงง หรือซึมลง

  • ริมฝีปากหรือผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ

  • อาเจียนรุนแรง ไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้

  • อาการไข้กลับมาสูงอีกครั้งหลังจากที่ไข้ลดลงไปแล้ว

การป้องกันที่ดีที่สุด

 

หัวใจสำคัญของการรับมือกับไข้หวัดใหญ่คือการป้องกันครับ ซึ่งทำได้ง่ายๆ ดังนี้

  • ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่: เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด ควรฉีดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากเชื้อมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่เสมอ

  • ล้างมือบ่อยๆ: ล้างด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์

  • สวมหน้ากากอนามัย: โดยเฉพาะเมื่อต้องไปในที่ชุมชนแออัดหรือเมื่อเริ่มมีอาการป่วย

  • หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า

  • รักษาสุขภาพให้แข็งแรง: พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

บทความอื่นๆ