จุดชั่งใจข้อดีและเสียของรถยนต์ไฟฟ้าที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

อย่าซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตามกระแส ! แม้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรง และในอนาคตรถยนต์คงจะเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดอยู่ดี หลายคนเลยอาจอยากซื้อรถใหม่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าไปเสียเลยตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารถแบบไหนก็ไม่ควรซื้อตามกระแส แต่ควรพิจารณาข้อดี รวมถึงข้อจำกัด ว่าเหมาะกับเราหรือไม่ให้มั่นใจเสียก่อน เพราะรถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน อย่างน้อยก็ในตอนนี้
 
 
 
 
ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง
 
 
1. ค่าไฟฟ้าประหยัดกว่าค่าน้ำมัน
ปัจจุบันค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถยนต์น้ำมันในระยะทางที่เท่ากันนั้นประหยัดกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกรณีของผู้ที่ต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางมากเป็นพิเศษ
 
2. อัตราเร่งดีไม่ต้องรอรอบ
เพราะแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงมาก ซึ่งมากพอจนไม่ต้องอาศัยเกียร์มาช่วยทดกำลังแบบรถน้ำมัน สามารถสร้างแรงบิดสูงสุดได้ในทันที รถยนต์ไฟฟ้าจึงมีอัตราเร่งดีไม่ต้องรอรอบ หลายคนจึงอาจรู้สึกว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นขับสนุกเพราะจุดนี้
 
3. มีเนื้อที่ภายในมากกว่า
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์ ตลอดจนส่วนของระบบส่งกำลังที่เบียดบังห้องโดยสาร จึงสามารถจัดสรรพื้นที่ได้ง่ายกว่ารถน้ำมัน
 
4. บำรุงรักษาง่าย
ในทางเทคนิคชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้านั้นน้อยกว่ารถยนต์น้ำมัน เมื่อตัดเรื่องของเครื่องยนต์รวมถึงระบบส่งกำลังออกไปแล้วโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทดแทน จึงมีส่วนที่ต้องดูแลน้อยชิ้นและไม่ซับซ้อนมากนัก
 
5. ไม่มีเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์
อย่างที่ทราบกันดีว่ารถยนต์ไฟฟ้า ใช้มอเตอร์เป็นตัวสร้างกำลังขับเคลื่อนที่หมุนได้นิ่งเรียบ ต่างจากเครื่องยนต์สันดาปภายในที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนมากมายขยับไปมาและมีการจุดจุดระเบิดจนเกิดเสียงและแรงสั่นสะเทือนตลอดเวลา ส่งผลต่อความเหนื่อยล้าในการเดินทางได้
 
6. ไม่มีมลพิษ
มลพิษที่ว่าคือของเสียจากการเผ้าไหม้ที่ถูกปล่อยออกมาจากท่อไอเสีย ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นในรถยนต์ไฟฟ้าเพราะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าขณะขับ
 
7. ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
แน่นอนว่าข้อได้เปรียบของรถยนต์ไฟฟ้าและมีผลกับกระแสความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นคือนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น การลดภาษี หรือให้สิทธิประโยชน์กับผู้ผลิตที่เข้าร่วมภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด รถยนต์ไฟฟ้าจึงมีราคาต่ำลง ในขณะที่อุปกรณ์ สมรรถนะ เหนือกว่ารถยนต์น้ำมัน
 
 
 
 
ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าที่ควรรู้
 
1. การชาร์จไฟ
ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของสถานีชาร์จน้อยกว่าปั๊มน้ำมัน แต่ใช้ระยะเวลาในการชาร์จมากกว่าหลายเท่า หลายสถานีต้องจองคิว ซึ่งเจอปัญหาตามมาอีกมากมาย จนกลายเป็นที่มาของคำว่า “นักสู้หน้าตู้ชาร์จ” ล้วนเป็นสิ่งที่คนขับรถยนต์ไฟฟ้าอาจต้องเจอ
 
2. แบตเตอรี่ราคาสูงมาก
ถึงค่าพลังงานจะต่ำกว่ารถน้ำมัน แต่ตัวแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้ากลับมีราคาสูง หากเกิดความเสียหายหรือเสื่อมสภาพนอกเงื่อนไขการรับประกัน ค่าใช้จ่ายอาจใกล้เคียงราคาตัวรถ อีกทั้งแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอาจเป็นของตกยุคไปเลยในอนาคต โดยมีแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่หรือรูปแบบใหม่มาแทนที่ ทำให้ไม่สามารถใช้ลากยาวได้ (ยังไม่นับ Software และ Hardware ของ Smart Cockpit ที่ Outdated ไม่สามารถอัปเกรดได้อีกเหมือนสมาร์ตโฟน) ต่างจากรถยนต์น้ำมันซึ่งระบบเชื้อเพลิงมาถึงจุดสูงสุดแล้ว นิ่งกว่า มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของรูปแบบได้ไม่มาก
 
3. สถานที่ไม่อำนวยให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า
หากพักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม หรือบ้านที่ไม่มีบริเวณสำหรับจอดรถ อาจไม่มีที่ไว้ชาร์จไฟ หรือมีแต่ก็คงไม่สามารถทำให้เพียงพอได้ทั้งหมด ต้องอาศัยชาร์จไฟจากสถานีบริการตลอดเวลา ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก
 
4. การบริการหลังการขาย
ด้วยความที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ และรถยนต์ไฟฟ้าระดับ Mass ทำตลาดอย่างรวดเร็วส่วนมากจะเป็นรถจีน ซึ่งต่างจากรถยนต์น้ำมันที่มีจำหน่ายต่อเนื่องมายาวนาน อาจมีปัญหาในเรื่องความแพร่หลายของจำนวนศูนย์บริการ อะไหล่ รวมถึงความพร้อมของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ หรือมีแต่ไม่เพียงพอต่อจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลอดจนปัญหาใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพบในรถยนต์น้ำมันก็สามารถเกิดขึ้นได้
 
5. ราคาจำหน่ายยังไม่นิ่ง
หลายคนเรียกติดดอยในความรู้สึก เพราะซื้อมาแล้วไม่นานก็มีประกาศลดราคาเป็นแสน ถ้าทำใจได้ ถือคติใช้ก่อนเท่ก่อน ประหยัดก่อน อาจไม่มีปัญหาในข้อนี้
 
6. ราคาขายต่อไม่แน่นอน
ถึงจะบอกว่าซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขาย แต่ผู้ซื้ออีกจำนวนมากยังต้องมองราคาขายต่อเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อจะได้นำเงินส่วนนี้ไปดาวน์รถยนต์คันใหม่ในอนาคต หากมีงบประมาณมากพอคงไม่มีผลกระทบนัก หรือถ้าจะใช้ต่อก็ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีราคาสูงซึ่งอาจไม่คุ้ม จึงต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วยเช่นกัน
 
7. ปัญหาจากการใช้งานในระยะยาว
นี่อาจเป็นภาพรวมที่เรายังไม่ทราบ ไม่ใช่แค่เฉพาะกับตัวสินค้า เพราะรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นของใหม่หลังจากรถยนต์น้ำมันครองโลกและพัฒนาต่อเนื่องมายาวนาน ขณะที่ปัญหาและเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงระบบสาธารณูปโภคเป็นเพียงการเริ่มต้น การได้ใช้ก่อนอาจไม่ได้แปลว่าได้เปรียบเสมอไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานแต่ละราย คิดแบบเหมารวมได้ยาก
 
โดยสรุปคือ รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดีแน่นอน แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ใครที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า จงอย่าซื้อเพียงแค่ “ตามกระแส” เพราะรถยนต์ไฟฟ้าอาจยังไม่เหมาะกับทุกคน รถยนต์ไฟฟ้าอาจมีอายุการใช้สั้นกว่ารถยนต์น้ำมัน ด้วยแนวคิดและข้อจำกัดที่ทำให้ต้องใช้ได้ระยะหนึ่งแล้วทิ้งเหมือนสมาร์ตโฟน (อัปเกรดไม่ได้อีก หรือแบตเตอรี่รุ่นเก่าไม่มีผลิต) ควรเลือกให้เหมาะสมตามการใช้งานของตนเองดีที่สุด

บทความอื่นๆ