ทำไมผู้สูงอายุมักเกิดหลอดเลือดสมองแตกในห้องน้ำ

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เกิดจากการหลอดเลือดสมองมีการอุดตัน ตีบ หรือแตก ส่งผลให้สมองบริเวณดังกล่าวเกิดการบาดเจ็บ หรือขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เซลล์สมองเสียหาย ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการ เช่น ปากเบี้ยวหน้าเบี้ยว พูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้ แขนขาอ่อนแรง ชาครึ่งซีก หรือเดินเซ มักเกิดในผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไขมันในเลือดสูง
 
 
4 สาเหตุผู้สูงอายุมักเกิดหลอดเลือดสมองแตกในห้องน้ำ
 
  • ขณะอาบน้ำเย็นทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้น จนหลอดเลือดในสมองแตก หรือเมื่อความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลอดเลือดตอบสนองด้วยการหดตัว จากหลอดเลือดที่เคยตีบอยู่ก็กลายเป็นหลอดเลือดตัน ส่งผลให้สมองขาดเลือด เป็นเหตุให้ล้มในห้องน้ำและอาจกลายเป็นอัมพาต
  • ปรับเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว เช่น รีบลุกออกจากที่นอน เปลี่ยนท่านั่งเป็นท่ายืนเร็วเกินไป ส่งผลให้ความดันโลหิตในสมองสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้หลอดเลือดในสมองแตก
  • การเบ่งถ่ายในห้องน้ำ หรืออาการอื่น ๆ เช่น การไอ การจาม จะทำให้แรงดันในสมองสูงขึ้นไปถึง 10 เท่า
  • คนที่มีโรคประจำตัวความดันโลหิต อาจจะต้องคอยสังเกตอาการตัวเอง เพราะว่าต้องกินยารักษาโรคความดันทุกเช้า แต่ยาความดันโลหิตมักออกฤทธิ์ระยะสั้นส่งผลให้ยาอาจหมดฤทธิ์ในช่วงเย็น จึงเป็นจุดอ่อนทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและอาจก่อให้เกิดอาการหลอดเลือดสมองโดยไม่รู้ตัว
 
 
วิธีป้องกันหลอดเลือดสมองแตกในห้องน้ำ
 
 
  • คนที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง ควรระมัดระวังในการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ โดยควรลุกขึ้นยืนช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป และควรหลีกเลี่ยงการยืนนาน ๆ
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด และควรดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงความเครียด ความวิตกกังวล
  • ทั้งนี้ หากพบตัวเองหรือบุคคลใกล้ชิดมีอาการเข้าข่ายโรคหลอดเลือดสมองควรรีบมาโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

บทความอื่นๆ